การศึกษาความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น

ชื่อผลงาน
การศึกษาความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น

ผู้จัดทำ
นายนิรันดร  กากแก้ว  ศึกษานิเทศชำนาญการพิเศษ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น

บทคัดย่อ

 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น  ในด้านความรู้ ๙ ด้าน ได้แก่ ด้านภาษาและเทคโนโลยี  ด้านการพัฒนาหลักสูตร  ด้านการจัดการเรียนรู้  ด้านจิตวิทยาสำหรับครู  ด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา  ด้านการบริหารจัดการ    ในห้องเรียน  ด้านการวิจัยทางการศึกษา  ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา และด้านความเป็นครู

กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น  ในปีการศึกษา ๒๕๖๐ จำนวน ๒๑๔ คน  เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบไม่ใช้ความน่าจะเป็น (Nonprobability Sampling Method)    ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญหรือตามความสะดวก (Convenience Sampling)  เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามประมาณค่า ๕ ระดับ  สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย  ค่าร้อยละ และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

          ผลการวิจัยพบว่า

๑. ครูผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงและส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานต่ำกว่า ๕ ปี

๒. ความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวม พบว่า มีความต้องการอยู่ในระดับมากที่สุด  เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงตามลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปน้อย พบว่า  ด้านการจัดการเรียนรู้  ด้านการวิจัยทางการศึกษา  ด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู และ          ด้านจิตวิทยาสำหรับครู  ครูมีความต้องการอยู่ในระดับมากที่สุด

๓. การรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น พบว่า ครูมีความต้องการในด้านสิทธิ สวัสดิการเท่าเทียมกันกับครูโรงเรียนสังกัดรัฐบาล การอบรมสัมมนาตามโครงการต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  การจัดทำแผนการเรียนรู้ให้เหมาะกับวัยผู้เรียนรวมทั้งเทคนิควิธีการสอน  การทำการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนานักเรียนและเพื่อพัฒนาตนเอง        การสนับสนุนในเรื่องงบประมาณในการทำสื่อการเรียนการสอนให้กับครูเนื่องจากสื่อบางชนิดครูผู้สอนต้องจัดซื้อด้วยตนเอง  การพัฒนางานการเรียนการสอนจากศึกษานิเทศก์  การนิเทศในห้องเรียน     การพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพของครู  การส่งเสริมให้มีการจัดแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน และมีความต้องการวิธีการพัฒนาตนเองด้วยการอบรมและการศึกษาดูงาน

 

 

Nirundorn  Kakkaew and Other (2017).  A  Study of Needs  of  Teachers in  KhonKaen                                             Private Schools. KhonKaen Province  Education Office.

 

Abstract

 

This research aims to analyze the needs of KhonKaen private school teachers. In terms of knowledge, 9 aspects are language and technology, Curriculum development, Learning Management, Psychology for Teachers, Measurement and Evaluation of Education, Management in the classroom, Educational research, Innovation and Information Technology in Education  And teacher spirit.

The sample consisted of 214 teachers in KhonKaen private schools in the academic year of 2017. The samples were non-probability sampling, Nonprobability sampling method with random sampling, Convenience Sampling. The instruments used were 5-level questionnaire. The statistics used in analyzing the data consisted of percentage, average, and standard deviation.

The research results were revealed as follows :

  1. The teacher responded, Most of them are female and most of them have less than 5 years of experience.
  2. The needs of private school teachers in KhonKaen province showed that the demand was at the highest level. When considering each side by the order of average score, Learning Management, Educational Research, Language and Technology for Teachers  And Psychologists for Teachers. Teachers need to be at the highest level.
  3. The gathering of suggestions on the needs of teachers in KhonKaen private schools showed that the teachers needed the right. Equal benefits to government school teachers, Seminar on various projects from the relevant agencies, Make plans to learn to suit your age, as well as how to teach, Research in the classroom to develop students and to develop themselves. Supporting the budget for media teaching and learning to teachers, because some media teachers have to purchase manually. The development of teaching work from the supervisors. Supervision in the classroom Development of teacher personality improvement. Encourage the provision of learning resources within the school. And the need for self-improvement through training and study visit.

การศึกษาความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น

 

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

การศึกษาในประเทศไทยยุคปัจจุบันพัฒนาจากในอดีตเป็นอย่างมาก มีการกระจายอำนาจจากราชการไปสู่หน่วยงานเอกชน ตลอดจนการกระจายอำนาจการบริหารจากส่วนกลางไปยังโรงเรียนในหลายรูปแบบ  โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคลในโรงเรียนเอกชนที่เปิดโอกาสให้ผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้คัดเลือก ผู้ที่จะมาเป็นบุคลากรในโรงเรียนด้วยตนเอง (ปาณิสรา นวลศรี, ๒๕๕๗ : ๑ – ๒)

ในการพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพ “บุคลากร” ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดเพราะบุคลากรในองค์กรเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จ หน้าที่สำคัญประการหนึ่งขององค์กรคือการธำรงรักษาให้บุคลากรในองค์กรให้มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเพื่อให้บุคลากรมีความพร้อม    ทั้งร่างกายและจิตใจ ส่งผลทำให้เกิดความทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจให้กับองค์การอย่างเต็มที่ ถ้าหากองค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของบุคลากรได้แล้ว บุคลากรก็มีความยินดีและเต็มใจที่จะทำงาน ให้องค์กรอย่างดีที่สุด (ภูกมล นวนาทเจษฎา, ๒๕๕๗ : ๑๙๖ – ๑๙๗) การพัฒนาบุคลากรในปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงด้านหลักสูตรและแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โรงเรียนมีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียนเอกชน ซึ่งปณิสรา นวลศรี (๒๕๕๗ : ๒) ได้อภิปรายไว้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่มาตรฐานการศึกษาในโรงเรียนเอกชนยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร อาจเนื่องจากปัญหาด้านบุคลากรครู ดังนั้นความต้องการในการทำงานของครูเอกชนจึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจต่อการพัฒนามากยิ่งขึ้น การพัฒนาตนเองของครูและบุคลากรทางการศึกษาถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคลากร ให้เอื้ออำนวยต่อการบริหารบุคลากร โดยมีเป้าหมาย คือองค์กรสามารถเสริมสร้างและปรับเปลี่ยนผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ (knowledge)  ความเข้าใจ(Understanding) ทักษะในการทำงาน (Skill) และทัศนคติ (Attitude) ให้เอื้ออำนวยต่อประสิทธิภาพในการทำงานได้มากที่สุด

จากการศึกษาข้อมูลโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น  พบว่า  รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาเอกชนเช่นเดียวกับการจัดการศึกษาของรัฐ โดยได้กำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาครูให้มีคุณภาพสูงขึ้น แต่แนวทางในการปฏิบัติจริงการพัฒนาครูให้มีคุณภาพตามนโยบายของรัฐมีแค่เพียงบางส่วนหรือบางโรงเรียนยังไม่ได้สนับสนุนให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐอย่างเหมาะสม จึงทำให้ครูโรงเรียนเอกชนเกิดความไม่พอใจต่องานที่ทำ ส่งผลให้การทำงานของครูโรงเรียนเอกชนลดน้อยลงและมุ่งที่จะเปลี่ยนงาน ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียน  กอปรกัปทางด้านคุรุสภาได้กำหนดข้อบังคับในด้านมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครู พ.ศ. ๒๕๔๘  โดยครูจะต้องมีมาตรฐานทางด้านความรู้ในด้านต่างๆ   ซึ่งประกอบไปด้วยด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู  ด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนรู้   ด้านจิตวิทยาสำหรับครู  ด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา  ด้านการบริหารจัดการในห้องเรียน      ด้านการวิจัยทางการศึกษา ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาและด้านความเป็นครู  ทำให้ครูต้องพัฒนาตนเองให้ได้ถึงมาตรฐานที่รัฐกำหนด (สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. ๒๕๕๐ : ๔๑)  ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์         ในภาพรวมของโรงเรียนเอกชน อันจะช่วยให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้บริหารพิจารณาปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องนำไปส่งเสริมให้ครูเอกชนมีคุณภาพที่ดีและการทำงานต่อไป

วัตถุประสงค์

เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น

 

นิยามศัพท์เฉพาะ

          ความต้องการของครู   หมายถึง   ความต้องการในการพัฒนาตนเองของครู ที่จะพัฒนาความรู้ ความสามารถ  ทักษะจากที่เป็นอยู่ ให้เพิ่มขึ้นหรือได้ผลงานที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ทักษะให้ได้ตามที่มาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนดไว้ ๙ ด้าน  ได้แก่

วิธีดำเนินการ

          เครื่องมือ

เครื่องมือที่ใช้ครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire)  มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ๕ ระดับ  ได้แก่  มากที่สุด  มาก  ปานกลาง  น้อย  น้อยที่สุด   แบ่งเป็น ๓ ตอน  ดังนี้

ตอนที่ ๑ แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบ ได้แก่  เพศ  ประสบการณ์การปฏิบัติงาน

ตอนที่ ๒ แบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความต้องการพัฒนาตนเองด้านมาตรฐานความรู้             ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ๙ ด้าน

ตอนที่ ๓  แบบสอบถามปลายเปิด เพื่อให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการของครู เช่น  ต้องการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ  ด้วยวิธีการอย่างไร  ระยะเวลาเท่าไหร่  ตลอดจนข้อเสนอแนะอื่นๆ

          การเก็บรวบรวมข้อมูล

ดำเนินการเก็บข้อมูล ดังนี้

๑. นำแบบสอบถาม สอบถามกับกลุ่มตัวอย่างด้วยตนเอง (กลุ่มตัวอย่างมีการประชุมอบรมเกี่ยวกับการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนเอกชน  ในวันเสาร์ ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๐  ณ  โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น)

๒. รวบรวมแบบสอบถามคืนด้วยตนเอง ได้คืน จำนวน ๒๑๔ ชุด  คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐

 

สรุปผลการวิจัย

๑. ความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น  พบว่า โดยภาพรวมมีความต้องการ        อยู่ในระดับมากที่สุด (  = ๔.๖๐)  เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงตามลำดับคะแนนเฉลี่ยจากมากไปน้อย พบว่า  ด้านการจัดการเรียนรู้  ด้านการวิจัยทางการศึกษา  ด้านภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู และด้านจิตวิทยาสำหรับครู  ครูมีความต้องการอยู่ในระดับมากที่สุด

๒. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความต้องการของครูโรงเรียนเอกชนจังหวัดขอนแก่น พบว่า ครูมีความต้องการในด้านสิทธิ สวัสดิการเท่าเทียมกันกับครูโรงเรียนสังกัดรัฐบาล  การอบรมสัมมนาตามโครงการต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  การจัดทำแผนการเรียนรู้ให้เหมาะกับวัยผู้เรียนรวมทั้งเทคนิควิธีการสอน  การทำการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนานักเรียนและเพื่อพัฒนาตนเอง  การสนับสนุนในเรื่องงบประมาณในการทำสื่อการเรียนการสอน  การพัฒนางานการเรียนการสอนจากศึกษานิเทศก์ การนิเทศในห้องเรียน  การพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพของครู  การส่งเสริมให้มีการจัดแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน และมีความต้องการวิธีการพัฒนาตนเองด้วยการอบรมและการศึกษาดูงาน

ข้อเสนอแนะ

๑. ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับความต้องการพัฒนาตนเองด้านความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครู        ให้เจาะจงในรายละเอียดของความรู้ในแต่ละด้านให้มากยิ่งขึ้น  เช่น  ด้านการวิจัย  ด้านความเป็นครู    ด้านการวัดและประเมินผลการศึกษา เป็นต้น

๒. ควรมีการศึกษาความต้องการของครูในสังกัดอื่นๆ  เช่น  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา  สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)  เป็นต้น

บรรณานุกรม

ปานิสรา  นวลศรี (๒๕๕๗),  ความต้องการของครูดรงเรียนเอกชนในจังหวัดบุรีรัมย์.  วิทยานิพนธ์

ครุศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.

ภูกมล นวนาทเจษฎา (๒๕๕๗), ความผูกพันของครูโรงเรียนเอกชนต่อสถานศึกษาระดับประถมศึกษา

         เขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร.วารสารบัณฑิตศึกษา :  มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (๒๕๕๐), แผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเอกชนในการ  

        จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : พริกหวานกราฟฟิก.