ห้องเรียนสร้างโอกาส 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ตอบโจทย์ Thailand Zero Dropout แก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบให้กลายเป็นศูนย์ ผ่านการศึกษาที่ยืดหยุ่น โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

วันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2568 นายวัชระ อันโยธา ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น นายสุดใจ อ่อนฤาชา รองศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ร่วมติดตามการลงพื้นที่และรายงานความคืบหน้า ในการติดตามผลการดำเนินการตามมาตรฐาน Thailand Zero Dropout แก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบให้กลายเป็นศูนย์
.
นำโดย นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ดร.สนิท อาสาธง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดขอนแก่น ร่วมติดตาม ในการลงพื้นที่ติดตามโครงการแนวทางชีวิตมั่นคงมองสู่อาชีพที่ยั่งยืน ณ ศาลาเอนกประสงค์ บ้านสันติสุข ตำบลบ้านเป็น อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น และติดตามโครงการห้องเรียนสร้างโอกาส 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ของโรงเรียนพุทธเกษมวิทยาลัย และโรงเรียนการกุศลวัดหนองกุง ณ ห้องประชุมโรงเรียนพุทธเกษมวิทยาลัย ตำบลหนองกุง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
.
และร่วมการประชุมสรุปผลการลงพื้นที่ โดยมีนายฉัตริน จันทร์หอม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมแก่นภูมิ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
.
นายวัชระ อันโยธา ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นได้นำห้องเรียนสร้างโอกาส 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ มาใช้ในการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล Thailand Zero Dropout แก้ปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบให้กลายเป็นศูนย์ โดยเริ่มจากโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา เป็นโรงเรียนต้นแบบนำร่อง เป็นการเพิ่มโอกาสให้นักเรียน ซึ่งการเรียนไม่จำเป็นต้องอยู่เฉพาะในห้องเรียน นักเรียนมีตารางเรียนซึ่งเปรืยบเสมือนตารางชีวิตของแต่ละบุคคล ช่วยให้สามารถมีวุฒิการศึกษาไปต่อยอดการใช้ชีวิต เพิ่มโอกาสในการทำงานต่อไปในอนาคตได้
.
นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โมเดล 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ สามารถตอบโจทย์ Thailand Zero Dropout ได้ เพราะสามารถจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น ออกแบบหลักสูตรการเรียนที่เป็นจริง โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สามารถทำให้ทำงานและเรียนไปพร้อมกันได้
.
โดยการดำเนินงานห้องเรียนสร้างโอกาส 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เพิ่มโอกาสให้เด็กได้เข้าถึงการศึกษาตามความต้องการของแต่ละคน ประกอบด้วย 1.การจัดการศึกษาในระบบเหมือนหลักสูตรทั่วไปตามโรงเรียน 2.การศึกษานอกระบบสอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการของนักเรียนแต่ละกลุ่ม 3.การศึกษาตามอัธยาศัยเรียนรู้ตามศักยภาพและความสนใจ โดยสถานศึกษาอาจจัดการศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือทั้ง 3 รูปแบบให้มีการเทียบโอนผลการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสะสมไว้ระหว่างรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบได้ ทั้งจากสถานศึกษาเดียวกัน ต่างกัน รวมทั้งการเรียนรู้นอกระบบ ตามอัธยาศัย ฝึกอาชีพ หรือประสบการณ์ทำงาน
.
.
ข่าว ภูษณิศา ทองมหา นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ
งานประชาสัมพันธ์ กลุ่มอำนวยการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น